win Xp สามารถล็อค desktop ไม่ให้ user แก้ไข

1.ไปที่ Start คลิกที่ Run พิม regedit แล้วคลิกปุ่ม ok
2. ไปที่ HKEY_CURRENT_USERSof twareMicrosoftWindow sCurrentVersionPolic iesExplorer
3. คลิกขวาที่ Explorer แล้วเลือก New ตามด้วย DWORD Value
4. แล้วพิมพ์คำว่า NoViewContextMenu พิมพ์เสร็จแล้วดับเบิ ้ลคลิกขึ้นมา
5. ใส่เลข 1 ลงไป แล้วกด OK
6. ถ้าจะให้คลิกได้ก็ทำเ หมือนเดิมครับ เปลี่ยนจาก 1 เป็น 0
ลองทำกันดูน่ะครับเผื ่อมีประโยชน์กับเครื่ องของเราเองบ้าง

ทิปจาก www.itclubza.com

วิธีถนอมสายตาด้วยการปรับความถี่หน้าจอ ทำซะ(ไม่เกิน2นาที)และเทคนิคอื่นๆ ง่ายที่ใครก้อทำได้

มาเริ่มกันเรยยยยย

1. คลิกขวาบน Desktop แล้วเลือก Properties

2. เลือก Settings ตรงมุมบนขวา และ เลือกที่ Advaned ที่มุมล่างขวา
และจะมีหน้าต่างใหม่ขึ้นมาดังข้อ3

3. เลือกที่ Monitor

4. จากนั้นดูที่มุม Monitor settings ที่ช่อง Screen refresh rate:
ให้ปรับจาก 60 Hertz เป็น 85 Hertz [อย่าเกินขอย้ำ]

5. เมื่อปรับเสดแล้วกดที่ Apply และ OK จนจบ

เสดละครับใครไม่รู้ว่าต่างกันยังไง ก้อลองปรับให้เป็น 60 Hertz เหมือนเดิม นะลองดู อืม


แนะนำอีก บางคนรู้แล้ว บางคนไม่รุ -..- เหอๆ

ต้นกระบองเพชรครับ ลองเอาไปไว้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์นะ มันจะช่วงดูดรังสีจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้
ทำไมต้องต้นกระบองเพชร


********************************************************************************
*******************
ปัจจุบัน การทำงานหลายอย่างต้องใช้คอมพิวเตอร์ บางคนถึงกับนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ผลที่ตามมาคืออาการเมื่อยล้าทางสายตา ไปจนถึงขั้นปวดศีรษะ และอาเจียน หลากหลายวิธีลดความเจ็บปวดจากการใช้คอมพิวเตอร์นานๆ มีผลวิจัยจากต่างประเทศเชื่อว่า ต้นกระบองเพชร หรือตะบองเพชร หรือแคคตัส (cactus) ที่ตั้งหน้าคอมพิวเตอร์ สามารถช่วยลดปัญหารังสีที่แผ่ออกมาได้

1. นายแพทย์ ศักดิ์ชัย ใช้จิกจา จักษุแพทย์ ผอ.มูลนิธิเทียนฟ้า อธิบายว่ารังสีอัลตร้าไวโอเลต หรือรังสียูวี รังสีเหนือม่วง พบในแสงแดด หลอดไฟ โทรทัศน์ และคอมพิวเตอร์ ซึ่งอย่างหลังคนเราสัมผัสใกล้ชิดมากกว่าอย่างอื่น การใช้คอมพิวเตอร์นานๆก่อให้เกิดปัญหาระคายเคืองเยื่อบุตา เคืองและแสบตา ส่งผลระยะยาวอาจก่อให้เกิดโรคต้อกระจกเร็วกว่าปกติ หรือมีปัญหาประสาทตาเสื่อม

“ทีวีไม่ได้ดูรายละเอียดมากเท่าใช้สายตา เพ่งคอมพิวเตอร์ ใช้นานมีปัญหาต่อสายตาทำให้กล้ามเนื้อตาล้า ปวดศีรษะ อาเจียนถึงขั้นหมดสติ ใช้ติดกันนานเป็นภาวะสายตาสั้นเกิดขึ้นชั่วคราว จริงๆไม่ได้สั้น แต่สายตาเปลี่ยนแปลงชั่วคราว รู้สึกว่าสายตาสั้น”

ปัจจุบัน คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่มีระบบกรองรังสี แต่เดิมวิธีการลดรังสีและแสงจ้าจากคอมพิวเตอร์ใช้การติดแผ่นกรองแสงรังสี หรือสวมแว่นกันแดดกรองรังสียูวี ซึ่งสามารถลดปริมาณรังสีและความจ้าของแสงสว่างที่แผ่ออกมาได้ในระดับหนึ่ง เท่านั้น การติดหรือไม่ติดแผ่นกรองแสงจึงมีผลแตกต่างกันไม่มาก เพียงแต่การติดแผ่นกรองแสงช่วยให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์เกิดความสบายใจ คลายความกังวล พร้อมกันนั้นช่วยลดแสงจ้า แสงสะท้อน และไฟฟ้าสถิต ทำให้อาการล้าของสายตาลดลง ต่างประเทศมีการวิจัยและทำการทดลองนำกระบองเพชร หรือตะบองเพชร หรือแคคตัส (cactus) ตั้งหน้าคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยลดปัญหาต่างๆอันเกิดจากรังสีที่แผ่ออกมาได้ ในบทความเกี่ยวกับความเจ็บป่วยจากจอคอมพิวเตอร์ของโรเจอร์ (Roger Coghill) ได้อ้างถึงผลวิจัยของสถาบัน Recherches en Geobiologie ของสวิตเซอร์แลนด์และนักวิจัยในอเมริกา ลดรังสีที่ฉายออกมาโดยทดลองนำต้นตะบองเพชรความสูง 40 เซนติเมตรไปตั้งไว้หน้าคอมพิวเตอร์ของลูกจ้างผู้เคยได้รับความเจ็บปวดทุกข์ ทรมานจากอาการปวดหัวและความอ่อนเพลีย

2.แคคตัส ไม้อวบน้ำมีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกาและแอฟริกา ลำต้นมีรูปร่างอวบสั้น มีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ภายใน มีทั้งแบบมีใบ และแบบเปลี่ยนใบเป็นหนามเพื่อลดการคายน้ำและป้องกันอันตราย ทุกวันพุธและวันพฤหัสบดี บริเวณตลาดนัดจตุจักรเต็มไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด มารุต พิเชษฐ์วิทย์ เจ้าของสวนไม้ทราย จำหน่ายแคคตัสและพันธุ์ไม้ทะเลทราย ไม้แปลกและหายาก เล่าให้ถึงความนิยมแคคตัสดูดรังสีหน้าคอมพิวเตอร์ให้ฟังว่า

“ส่วน ใหญ่มาหาซื้อเพื่อนำไปตั้งไว้หน้าคอมพิวเตอร์ดูดรังสี เพิ่งทราบว่าตะบองเพชรดูดรังสีได้ มีผลจากวิจัยจากเมืองนอกว่าหนามของมันเป็นสื่อดูดรังสีจากจอโทรทัศน์หรือ คอมพิวเตอร์ อีกอย่างคิดว่าเพราะเป็นต้นไม้ขนาดเล็กสามารถนำไปตั้งไว้ในบ้าน เพื่อความสวยงาม เหมาะที่จะนำไปตั้งไว้หน้าคอมพิวเตอร์”

รูปทรงและ พันธุ์ของแคคตัสมีมากมาย พันธุ์ที่สามารถดูดรังสีได้คือพันธุ์ที่มีหนาม “แคคตัสมีหลายประเภท ทั้งแบบที่มีหนาม ไม่มีน้ำ มีใบ เพราะฉะนั้นตัวที่ดูดรังสีได้น่าจะมีหนามค่อนข้างมาก หนามเป็นสื่อที่จะดูดรังสี ลักษณะโดยรวมของแคคตัสมีหนามเยอะอยู่แล้ว ถ้ามีหนามมากน่าจะดูดรังสีได้มาก” กระทั่งแคคตัสที่มีหนามก็ยังมีหลายพันธุ์ตั้งไว้ละลานตาให้เลือก อย่างไรก็ตามพันธุ์ที่คนส่วนใหญ่กำลังนิยมมีชื่อว่าถังทอง “ดาวล้อมเดือน" พันธุ์เบสิกดั้งเดิม ภาษาชาวบ้านเรียกว่านแม่ลูกดก ต้นมีหน่อเป็นวงเหมือนมีลูกเยอะๆ พันธุ์พื้นๆที่คนซื้อไปก็มีมะนาวหิน เมโล ยิมโน แต่ที่กำลังนิยมตอนนี้ได้แก่ ถังทอง เป็นไม้ทรงกลมขนาดใหญ่ต้นยิ่งโตยิ่งสวย หนามมีสีทองคลุมรอบต้น โตเต็มที่เส้นผ่าศูนย์กลางเมตรครึ่ง-2 เมตร บ้านเราที่เลี้ยงกันอยู่นิยมขนาด 5 นิ้ว-6 นิ้ว ใช้เวลาปลูก 3-4 ปี” ราคาและความสวยงามเป็นปัจจัยหลักที่คนตัดสินใจเลือกซื้อ “ไม้ตลาดพื้นๆ ต้นเล็กสวยงาม มีดอก ราคาไม่แพงตั้งแต่ 10 บาท 20 บาท ไม่เกิน 100 บาท เกินจากนี้เป็นไม้ของนักเล่น ดูดได้จนกว่าต้นตะบองเพชรจะตาย ผมเคยนำไปวางไว้หน้าคอมพ์คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของความเชื่อมากกว่า จริงๆไม่ได้มีผลดูดให้เห็นกันจะจะขนาดนั้น มีผลบ้างเล็กน้อยทางด้านจิตใจ ตะบองเพชรเป็นต้นไม้ขนาดเล็กสามารถนำไปตั้งไว้ในบ้านเพื่อความสวยงาม เหมาะที่จะนำไปตั้งไว้หน้าคอมพิวเตอร์”

สำหรับจักษุแพทย์ศักดิ์ชัย แสดงความเห็นส่วนตัวว่าการที่ตะบองเพชรสามารถดูด รังสีได้นั้นน่าจะเป็นเพราะว่า “พืชสีเขียวมีคลอโรฟิลล์รับแสงแดดอยู่แล้วในการปรุงอาหาร ตะบองเพชรมีสีเขียวมีโอกาสดูดซับรังสีจากคอมพ์บางส่วน แทนที่จะกระจายให้ผู้ใช้โดยตรงเท่านั้น” ไม่ว่าผลที่ได้จะเป็นอย่างไร บางครั้งการได้มองสีเขียวๆของธรรมชาติ แม้เพียงเสี้ยววินาทีเดียวอาจจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อตา ได้บ้าง มากกว่าการนั่งแช่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆเพียงอย่างเดียว


ที่มา : ข้อมูลจากกองอาชีวอนามัย กรมอนามัย
เว็บไซต์ satori 5.co.uk/word_articles/hrs/terminal_illness_computer_screens.html-Terminal Illness: Computer Screens
เว็บไซด์ http://www.creativeinc.co.uk/em_smog.html

ผู้ให้บริการรับประกันเครื่องคอมพิวเตอร์รายใหญ่ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ อันดับของผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กที่มีเปอร์เซ็นต์ความผิดปกติของการทำงาน (malfunction) ภายใน 3 ปี โดยโน้ตบุ๊กที่มีความผิดปกติของเครื่องต่ำสุดได้แก่ Asus ในขณะที่เปอร์เซ็นต์สูงสุดเป็น HP ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดโน้ตบุ๊กที่มีผู้ใช้มากที่สุด


SquareTrade ได้ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับอัตราความเสียหายของโน้ตบุ๊กภายใน 3 ปี โดยจัดอันดับตามเปอร์เซ็นต์ความเสียหายของเครื่องที่มีการเอาประกันกับ ทางบริษัท ซึ่งผลปรากฎว่า โนัตบุ๊กของ Asus มีเปอร์เซ็นต์ความผิดปกติของการทำงานภายใน 3 ปีต่ำสุดอยู่ที่ 15.6% ตามด้วย Toshiba (15.7%) และ Sony (16.8%) ส่วนโน้ตบุ๊กของ HP มีเปอร์เซ็นต์ความผิดปกติของเครื่องสูงสุดคือ 25.6% อย่างไรก็ตาม โดยเฉลี่ยแล้วพบว่ามากกว่า 31% ของโน้ตบุ๊กทั้งหมดจะมีความผิดปกติภายใน 3 ปีแรก
IPB Image

นอก จากนี้ทางบริษัทยังได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเน็ตบุ๊ก (Netbook) ด้วย โดยข้อสรุปที่น่าตกใจก็คือ โดยเฉลี่ย 20% ของเน็ตบุ๊กจะมีปัญหาภายในปีแรก ตามมาด้วยโน้ตบุ๊กสำหรับผู้ใช้ระดับกลาง และไฮเอ็นด์

IPB Image

Square Trade กล่าวว่า ผลการวิจัยข้อมูลในครั้งนี้ทางบริษัทได้สุ่มเลือกแลปทอป และเน็ตบุ๊กมากกว่า 30,000 เครื่องที่อยู่ในแผนการรับประกันของทางบริษัท โดยแต่ละแบรนด์ที่สุ่มขึ้นมาจะต้องมีจำนวนอย่างน้อย 1000 เครื่้อง ซึ่งได้แก่ Acer, Apple, Asus, Dell, Gateway, HP, Lenovo, Sony และ Toshiba สำหรับความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ หรือซอฟต์แวร์จะไม่ได้ถูกนับรวมในการจัดทำสถิติครั้งนี้ สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกเข้าไปดูที่ SquareTrade

ข้อมูลจาก: SquareTrade